Monday, December 27, 2010

Joyeux Noel a Ermont

นั่งฟังเสียงสามีก่นด่าคุณพี่คันข้างหน้ามาพักใหญ่..เรากำลังขับรถจากลียงเข้าปารีสเพื่อให้ทันงานปาร์ตี้ในคืนคริสต์มาสอีฟกับครอบครัวของสามี..จากเดิมที่แพลนไว้ว่าพ่อตัวดีเลิกงานตอนบ่ายสามโมงเราจะไปเจอกันที่สนามบินเพื่อบินเข้าปารีสตอนห้าโมงเย็น..หกโมงเย็นพ่อสามีก็จะมารอรับที่สนามบินพอดิบพอดีไปงานปาร์ตี้...แต่เพราะหิมะเจ้ากรรมดันตกมาตั้งแต่เช้า..แถมขยันตกยันเย็นเลบทีเดียว..งานนี้สนามบินปารีสเลยเป็นอัมพาต พาลให้ไฟลท์ที่เราจองไว้ยกเลิก..แผนเปลี่ยนเลยต้องบึ่งรถเข้าปารีส ถ้าถนนโล่งไม่มีน้ำแข็งเกาะก็ใช้เวลาประมาณห้าชั่วโมงขับแบบไม่ต้องแวะเข้าห้องน้ำที่ไหนเลย..

แต่นี่กว่าจะได้ออกเดินทางหลังจากรอเปลี่ยนยางใหม่ไปสองเส้น..ก็ปาไปบ่ายสี่โมง เราใช้บริการทางด่วนที่ค่าธรรมเนียมแพงเอาการหลายสิบยูโรเลยทีเดียว..สายนี้เรียกว่า A6 autoroute du soleil กว่าสี่ร้อยกิโลเมตรบนทางด่วนที่มีหิมะตกมาตลอดทาง ถนนมีน้ำแข็งเกาะปะปราย พ่อตัวดีหงุดหงิดมากเพราะคันข้างหน้าขับช้ามากแถมอยู่เลนซ้ายอีกต่างหาก..บนทางด่วนถ้าฝนไม่ตก จำกัดความเร็วไม่เกินหนึ่งร้อยสามสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่พี่คันหน้าแกเล่นเหยียบแค่เก้าสิบ..แถมมีชะลอดูอุบัติเหตุของทางด่วนฝั่งตรงข้ามอีกต่างหาก..ณ วินาทีนั้น ความอดทนของโชเฟอร์ประจำรถขาดผึง..พ่อตัวดีกดแตรใส่ไปหลายทีแล้วส่งสัญญาณไฟและมือให้แกเข้าเลนขวาไปเลย ฉันพยายามบอกให้คนของฉันใจเย็นๆ คนอื่นเขาอาจไม่ชินที่ต้องขับตอนหิมะตกเลยช้าไปหน่อย พ่อตัวดีที่แทบจะกินหัวใครได้ตอนนี้ก็เถียงสวนมาเลยว่า ก็ไปอยู่เลนซ้าย..มาคลานเป็นเต่าอยู่ฝั่งขวาแบบนี้มันต้องโดน..ด่า ท้ายที่สุดฉันเลยไม่พูดอะไรมาก..คอยส่งเสบียงให้คนขับเท่านั้นพอ..ไม่พูดไม่หื้อไม่อือ..จนพ่อตัวดีมารู้ตัวทีหลังว่า..ในรถอ่ะใครใหญ่สุด..เลยยอมจำนนเลิกบ่นเอาใจเมีย

ด้วยสภาพอากาศที่ย่ำแย่บวกกับการจราจรติดขัดเป็นบางช่วง..กว่าจะมาถึงบ้านพ่อสามีก็เกือบห้าทุ่ม..ญาติๆรออยู่นานแล้ว..แถมรู้สึกผิดมหันต์เพราะงานนี้มีญาติที่ท้องนั่งรอทานข้าวอยู่ด้วย..คุยไปทักทายไปแบบทำเวลามาก..กว่าฉันจะได้มุดหัวเข้านอนก็ปาไปตีสอง..รีบนอนซะ พรุ่งนี้ยังต้องมีปาร์ตี้ต่อ

เวลานัดหมายของวันคริสต์มาสแบบนี้คือบ่ายโมง..พ่อสามีคงรู้นิสัยลูกชายดีว่า ถ้าบึ่งรถมานานแบบนี้หล่อนต้องพักยาว..ฉันหอบบรรดาของขวัญเข้าบ้านไปรวมกับของคนอื่นที่เอามาชุมนุมกันใต้ต้นคริสต์มาสเป็นที่เรียบร้อย


พอทุกคนประจำที่แล้ว งานก็เริ่มโดยน้องชายคนเล็ก..เด็กสุดในบ้านทำหน้าที่แจกจ่ายของขวัญให้ทุกคนตามชื่อที่แปะไว้บนกล่องจนครบ จากนั้นทุกคนก็ตั้งหน้าตั้งตาแกะของขวัญที่กองอยู่ตรงหน้า แกะในที่นี้คือฉีกทึ้งกระดาษด้วยอาการดีใจ รีบร้อนไม่ต้องมานั่งค่อยๆแกะให้กระดาษไม่ขาดนะคะ ฉีกๆอย่างเดียว..แล้วพอเห็นของแล้ว แสดงออกมาเลยถึงความรู้สึกว่าดีใจ ไม่ชอบหรือยังไง อย่ามาทำเป็นแอ๊บเขินแบบฉัน..(ปีแรกที่ไปปาร์ตี้คริสต์มาส..กริยาอย่างไทยยังติดตัวอยู่มาก ไม่แกะของขวัญดู รอจะเอามาแกะดูคนเดียว..จนแฟนต้องบอกว่าแกะเลย..พอเห็นของฉันก้ขอบคุณเบาๆแบบเก็บอาการดีใจ ทั้งที่ในใจชอบมาก คือรักษากริยาต่อหน้าครอบครัวแฟนว่างั้นเถอะ..จนแฟนมาแอบถามว่า ถามจริงๆ ชอบของขวัญมั้ยเนี่ย บรรดาญาติๆเขากังวลมาก เพราะเห็นนั่งยิ้มๆ ไม่ออกอาการเลย..แฟนบอกว่า ชอบก็แสดงออกมาเลยไม่ต้องอาย..เรื่องปกติ) ฉันเลยจำมาจนถึงทุกวันนี้ วันนี้ฉันเลยเห็นแม่สามีรีบกลัดเข็มกลัดของขวัญที่ฉันให้เป็นการใหญ่แล้วเอ่ยชมไม่ขาดปาก..ของฉันเองนั้นได้นาฬิกาเรือนใหม่จากพ่อตัวดี เพราะว่าเรือนเก่าไปหล่นหายที่สนามบินหลังจากเจอวิบากกรรมไฟลท์ดีเลย์สิบชั่วโมงเพราะพายุหิมะ

Merci Papa Noel แมกซี่ ปาป้า โนเอล พ่อสามีเอ่ยขอบคุณเสียงดังหลังจากได้รับภาพวาดจากจิตรกรลูกหลง..เจ้าน้องชายคนสุดท้อง พ่อแนบรูปกับอก ยิ้มหน้าบาน แล้วยกรูปขึ้นจูบเบาๆ แล้วรีบเก็บรูปไว้อย่างดีในหนังสือเล่มใหญ่ที่ได้มาเป็นของขวัญอีกชิ้นจากใครสักคนในครอบครัว..จากสายตาฉันแล้ว มันก็ภาพวาดฝีมือเด็กแปดขวบธรรมดาๆนี่แหละ ไม่ได้สวยงามเข้าขั้นปิกัสโซ่ แต่ความงามที่มันเกิดขึ้นคือความตั้งใจของเจ้าตัวน้อยที่จะทำให้พ่อต่างหาก..ฉันคิดว่านั่นแหละ ของขวัญที่มอบให้ซานต้าครอสตัวจริงเสียงจริงของงานวันนั้น..พ่อนั่นเอง

เราใช้เวลาตั้งแต่แกะของขวัญจนนั่งทานไอศกรีมที่เป็นของหวานนานมาก..ร่วมห้าชั่วโมง จากนั้นน้องๆ ก็ขนบรรดาเกมต่างๆที่มีมาเล่นกัน ..ไม่ใช่เกมบอยไก่กา หรือวีดีโอเกมแบบสมัยฉันยังเด็ก..สมัยนี้เขาเล่น Wii หรือไม่ก็ X box 360 ซึ่งมันต้องให้ผู้เล่นออกท่าทางต่างๆตามเกมไปด้วย..เรียกเหงื่อได้เลยแหละ..ฉันที่หลุดยุคนั้นมาก็หลบนั่งอ่านหนังสือทำขนมที่เพิ่งได้มาไปดูน้องๆ เล่นไป แม่ลงมาเล่นกับน้องบ้าง..ไอ้น้องจอมแสบบางทีก็แผดเสียงร้อง สวมบทบาทดาราเจ้าน้ำตาเวลาที่เล่นเกมแล้วแพ้ หรือ ทำได้ไม่ดี..ฉันนั่งขำกับภาพที่เห็นตรงหน้า..

ตอนนี้ฉันเข้าใจทุกอย่างและทุกคน..เข้าใจดีว่าทำไมพ่อตัวดีเหยียบแทบจะบินเมื่อคืนให้มาถึงทันปาร์ตี้..พ่อสามีที่โทรมาสั่งการเรื่องงานตั้งแต่สองอาทิตย์ก่อน จิกถามทุกรายละเอียดว่า เราจะมายังไง กี่โมง..น้องสาวพ่อตัวดีที่ไปอยู่กับแฟนที่เบลเยี่ยมก็ต้องบึ่งรถมาเหมือนกัน..ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำไป มันหายเหนื่อยเพราะการได้อยู่ร่วมกันกับครอบครัว หัวเราะบ้าง เถียงกันบ้าง ร้องไห้ หรืองอนกันบ้าง แต่เราก็คือครอบครัว..ฉันเองที่ตอนนี้จากบ้านมาสร้างครอบครัวของตัวเองในต่างแดน..แม้ว่าฉันจะไม่ค่อยอินกับคริสต์มาสมากนักเพราะยังชอบสงกรานต์บ้านเรามากกว่า ..เล่นน้ำตัวเปียกแล้วมากินกับข้าวฝีมือแม่ที่ต้องพร้อมรบกับบรรดาพี่ๆที่มือไวไม่แพ้กัน..ใครช้าอดว่างั้นเถอะ

พ่อนั่งหลับกรนเสียงดังที่โซฟา จนน้องๆ และพ่อตัวดีหยุดหันมามอง แล้วแอบถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐานแบล๊กเมล์คุณพ่อทีหลัง
โดยมีแม่สนับสนุนโดยไร้การห้ามปรามใดๆ..อากาศข้างนอกมันหนาว..แต่ภายในบ้านตอนนี้มันอุ่น..ไม่รู้ว่าเพราะคนเยอะหรือฮีตเตอร์ตัวใหม่ก็ไม่ทราบได้..ฉันคิดแต่ว่า..ขอบคุณค่ะซานต้า

ปล.แม้แต่เจ้าตัวนี้ซานต้าก็ไม่ลืมให้ของขวัญด้วยนะ..น่ารักจริงๆ

No comments:

Post a Comment