Monday, December 13, 2010

รักออนไลน์

หลังจากพ่อหนุ่มตาน้ำข้าวเดินทางกลับบ้านเกิดไปแล้ว ฉันก็ยังได้รับข่าวสารจากเขาสารพัดรูปแบบ ทั้ง sms อีเมล์ และโทรศัพท์มาหาอยู่ทุกวัน ส่วนมากวันหยุดสุดสัปดาห์ หากเวลาว่างตรงกันฉันก็มักจะเห็นชื่อของเขาออนไลน์ในเอ็มเอสเอ็นโปรแกรมแชทที่ฉันใช้มานานหลายปีอยู่เป็นประจำ เราพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวของอีกฝ่ายผ่านสื่อที่ว่ามาทั้งหมด จนฉันเองก็ไม่รู้ตัวหรอกว่า เขาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของฉันตั้งแต่เมื่อไร

เขาทำแบบนี้อยู่นานเป็นปี จนวันหนึ่งในเดือนมีนาคมก่อนหน้าวันครบรอบวันเกิดของฉันหนึ่งอาทิตย์ ฉันได้รับดอกไม้ช่อใหญ่พร้อมการ์ดเล็กๆ ภาษาอังกฤษลงชื่ออีตาฝรั่งคนนั้น มาส่งให้ที่บ้าน..บ้านฉันเป็นอาคารพาณิชย์ แน่นอนหล่ะ ร้อยวันพันปีชาวบ้านแถวนี้ไม่เคยเห็นใครได้ช่อกุหลาบช่อเบิ้มมานาน ตอนฉันออกไปเซนต์รับดอกไม้ เพื่อนบ้านแถวนั้นหรือแม้แต่คนเดินผ่านไปมาก็หันมามองแล้วยิ้มๆให้ ฉันรู้สึกอายแทนมากกว่าจะดีใจ ..ที่จริงก็เขินพ่อเขินแม่ แล้วก็พี่ๆในบ้านอีกนั่นแหละ

บ่ายวันนั้นจำเลยออกมาสารภาพบาปว่า ชอบดอกไม้ที่เขาส่งให้มั้ย เขาอยากทำเซอร์ไพรส์ ซึ่งมันก็ได้ผล เซอร์ไพรส์มาก อายคนอื่นด้วย..ฉันขอบคุณไปก่อนที่จะปรามไปว่า อย่าทำแบบนี้อีกนะ ไม่ต้องส่งของอะไรมาอีกแล้ว มันไม่จำเป็น เปลืองเงินโดยใช่เหตุ
แต่ดูเหมือนฝรั่งจอมดื้อจะไม่เชื่อ เพราะในวันเกิดของฉันที่ไม่มีงานเลี้ยงอะไรพิเศษแค่ตื่นมาใส่บาตรตอนเช้า ผลบุญเลยส่งให้วันนั้นงานเยอะเป็นพิเศษและเป็นงานด่วนที่ต้องเคลียร์ให้จบในวันนั้นอีกต่างหาก ทำให้ฉันต้องทำงานจนดึกกว่าจะได้กลับมาบ้าน..

ผลบุญยังส่งผลให้ฉันต้องเสียเงินเพิ่มอีก พี่สาวเดินมาแบมือเขอเงินค่าภาษีกับฉันหนึ่งพันห้าร้อยบาท เพราะมีพัสดุจากแดนไกลหนักพอดูส่งมาหาฉัน เจ้าหน้าที่ที่มาส่งขอเก็บเงินขาภาษี..งานเข้าอีกแล้ว ฉันจ่ายเงินไปให้พี่สาวแล้วรับกล่องเจ้าปัญหานั่นมาแกะดู ..จ่าหน้าถึงฉันจากนังฝรั่งตัวดีเจ้าเดิม..เปิดออกมาดู ฉันก็เห็นเครื่องสำอาง น้ำหอม ขวดเล็กขวดน้อยอยู่จำนวนหนึ่ง การ์ดใบเล็กๆ เขียนอวยพรวันเกิดจากพ่อตาสีน้ำข้าว แล้วก็อัลบั้มภาพหนาหนัก หน้าปกเขียนชื่อของเขาไว้ ฉันเปิดออกมาดู เป็นภาพของเขาตั้งแต่แรกเกิดจนครบหนึ่งขวบ โดยแม่ของเขาเขียนคำบรรยายภาพทุกภาพไว้หมด ..แต่เป็นภาษาฝรั่งเศสนะ ซึ่งในตอนนั้นฉันยังไม่อ่านไม่ออกเลยสักคำ

คนในครอบครัวแซวเรื่องนี้กันใหญ่..แบบว่าเตรียมเฮได้ ลูกสาวคนเล็กขายออกสักที ฮิ้ว..แต่ฉันรู้สึกหัวเสียนิดหน่อยว่า ทำไมฉันต้องมาจ่ายค่าภาษีแพงขนาดนั้น เพื่ออัลบั้มรูปของเขาเนี่ย ฉันจะเอาไปทำอะไรได้..แล้วก่อนนอนคืนนั้น จำเลยก็โทรมาหาฉัน ถามว่าได้ของแล้วหรือยัง อัลบั้มที่เค้าให้มานะ เป็นของเขาเอง สำคัญมากเพราะหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว แ่ต่เขาอยากให้ฉันช่วยเก็บเอาไว้ให้..ถ้าฉันเป็นสาวโรแมนติกกับเขาสักหน่อย ฉันคงตื้นตันกับสิ่งที่เขาทำให้ แต่ฉันจำได้ว่า ฉันดุเค้าไปว่า ส่งมาทำไมเคยบอกแล้วใช่มั้ยว่าไม่ต้องส่งของมาให้ เนี่ย รู้มั้ย ฉันต้องเสียภาษีรับของแพงมากเลย..เขาอึ้งไปแล้วขอโทษที่ทำให้ฉันเดือดร้อน เขาบอกว่า รีบส่งมาให้กลัวไม่ทันวันเกิดของฉัน เลยลืมระบุไปว่าเป็นของขวัญ ทำให้ฉันโดนเรียกเก็บภาษี..พอแสดงบทผู้หญิงใจร้ายออกไป คราวนี้เองที่ฉันรู้สึกผิดว่าฉันพูดแรงไปรึเปล่า เพราะน้ำเสียงของเขามันอ่อยๆ ละห้อยมาก..

นางมารร้ายอย่างฉันที่ยังไม่รู้ตัวว่า ฉันเองนี่แหละที่ตามไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของฝรั่งหน้าซื่อๆ แต่แอบโจมตีฉันอยู่ทุกทาง
ระหว่างนั้นฉันก็ยังดำเนินชีวิตไปปกติ ความสัมพันธ์ของเรายังเรียกว่าเพื่อน แต่ฉันเองก็รู้ว่าเขาอยากเป็นมากกว่านั้น แต่ฉันยังขอเวลาอีกสักพัก..แต่แอบมีสงสัยหรือนึกถึงบ้างเวลาที่เขาไม่ส่ง sms หรือโทรมาหาเหมือนเคย.. เหมือนของที่เราเห็นอยู่ทุกวัน ทำไมวันนี้ไม่เหมือนเคย..อะไรทำนองนั้น..ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก มุกนี้มันใช้ได้จริงๆ นะ

วันที่ฉันตกลงว่าจะลองคบกับเขาดูแบบคนรัก ฉันจำได้ว่าได้รับกล่องพัสดุ(อีกแล้ว) แต่คราวนี้เรียบร้อยดีไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม ข้างในมีกล่องซีดีหน้าปกเป็นรูปของฉันที่เขาแอบถ่ายไว้ตอนมาเมืองไทย..ในซีดีคือคลิปเพลง Endless Love แต่มีภาพของฉันตั้งแต่เด็กๆ สมัยฟันหลอ ตัดผมม้าเด๋อๆ เรื่อยมาจนถึงภาพตอนเรียน รับปริญญาและภาพปัจจุบัน ..และฉากสุดท้ายเป็นคำสารภาพของเขาอีกครั้ง..

ฉันแอบซึ้งที่มีคนอีกคนหนึ่งในโลก ทำให้ฉันขนาดนี้ พี่สาวแอบมาบอกตอนหลังว่า เขามาแอบขอให้พี่สาวช่วยส่งรูปของฉันให้หน่อย เขาอยากทำอะไรบางอย่างให้ฉัน พี่ฉันก็อยากขายน้องเต็มแก่ ไม่รีรอที่จะช่วยเลยทีเดียว..

เจ้าตัวดีโทรมาขอคำตอบก่อนที่ฉันจะนอน ฉันเองก็ตัดสินใจอยู่พักใหญ่แต่ในที่สุด ฉันก็ยอมรับหนุ่มรุ่นน้องคนนี้ในฐานะแฟน
แม้ว่ามันอาจจะแปลกๆอยู่สักหน่อย ที่ตอนเจอตัวเป็นๆไม่ตกลง มาตอบรับตอนที่เราต้องห่างกัน..นั่นแหละจุดเริ่มของรักออนไลน์ของฉัน..มันอาจจะไม่ปกติตามวิถีทางของคู่รักปกติที่ได้อยู่ใกล้กัน ได้ใช้เวลาร่วมกัน..แต่มันก็ช่วยพิสูจน์ว่าระยะทางไม่ใช่อุปสรรคถ้าเราเชื่อใจและอดทนกันมากพอ

No comments:

Post a Comment