Monday, December 20, 2010

วีซ่าแต่งงานที่ฝรั่งเศส

ฉันนั่งรอเจ้าที่ตรวจเอกสารยื่นวีซ่าเพื่อไปแต่งงานอยู่พักใหญ่ หลังจากเสียค่าธรรมเนียมวีซ่าระยะสั้นและค่าบริการตัวแทนไปสี่พันกว่าบาท..ฉันนั่งมองเอกสารปึกหนาในมือ คิดอยู่ว่ามันหนาว่าวิทยานิพนธ์สมัยเรียนปริญญาอีกนะ

เอกสารที่ว่าก็มีแค่..

ใบสมัครขอวีซ่าพำนักระยะสั้น,รูปถ่ายสีประจำตัวขนาด 3.5 ซม. x 4.5 ซม. โดยมีพื้นหลังสีขาว 2 รูป ,หนังสือเดินทาง (ทั้งเล่มใหม่และเก่า ..เอามาหมดค่ะ สถานฑูตจะได้ทราบว่าเราเคยเดินทางไปที่นั่นมาบ้างแล้ว),เอกสารการจองตั๋วเครื่องบินแบบไป - กลับ จาก/ถึง ประเทศไทย ,ประกันภัยการเดินทาง,Attestation d'accueil,สูติบัตรที่แปลเป็นภาษาฝรั่งเศสแล้ว, ใบเปลี่ยนชื่อ, รายการเดินบัญชีครอบคลุมระยะเวลา 3 เดือนล่าสุด,หนังสือรับรองการทำงาน,สลิปเงินเดือน 3 เดือนล่าสุด,ใบประกาศการแต่งงาน, หนังสือรับรองไม่คัดค้านการแต่งงานที่ออกโดยอำเภอ, แถมงานนี้พ่อตัวดีก็ต้องเตรียมเอกสารของเขาให้ฉันด้วยมีทั้งสำเนาบัตรประชาชน,สำเนาหนังสือเดินทางพร้อมหน้าที่มีการประทับตราเข้าและออกเมืองไทย,สัญญาเช่าบ้าน,บิลค่าน้ำ ไฟ โทรศัพท์,หนังสือรับรองการทำงาน,รายการเดินบัญชีและสลิปเงินเดือน (ฉันเองที่ตัดสินใจตกล่องปล่องชิ้นกับเขาแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง ถึงเพิ่งจะรู้ว่าสามีในอนาคตมีเงินเดือน เงินออมเท่าไรก็งานนี้ ทุกทีมิใคร่สนใจซักถาม) อ้อ เอกสารทุกอย่างที่ว่า สำเนาไว้หนึ่งชุดด้วยนะคะ ต้องยื่นให้ทั้งเอกสารตัวจริงและสำเนา

น้องเจ้าหน้าที่ของตัวแทนสัมภาษณ์ฉันแบบสุภาพมาก ไม่มีแววตาดูแคลนแบบที่ฉันเจอที่สถานฑูตครั้งแรกและครั้งเดียว เพราะจากนั้นด้วยความที่ฉันผ่านการขอวีซ่ามาบ้างแล้ว ทำให้ฉันค่อนข้างมั่นใจ ไม่อึกอักเวลาเขาถามถึงข้อมูลต่างๆ อาจทำให้เจ้าหน้าที่สถานฑูตเชื่อใจฉันมากขึ้น (หรือเพราะฉันมาเจอเจ้าหน้าที่ผู้หญิงใจดีอีกท่านในสถานฑูตด้วยก็ไม่รู้..พี่เขาเป็นคนน่ารักจริงๆ ยังจำเขาได้ติดตาถึงทุกวันนี้ เขาช่างต่างกับเจ้าหน้าที่ผู้ชายคนแรกที่ฉันเจอจริงๆ คนนั้นไม่อยากจะพูด..เพลียใจ)..พอเปลี่ยนมาเป็นเจ้าหน้าที่ของตัวแทนด้วยแล้ว..น้องเขาก็สุภาพสมกับค่าธรรมเนียมที่จ่ายไปนั่นแหละ..

เอกสารของฉันเกือบจะเรียบร้อยดี..เพียงแต่ว่า ไอ้หนังสือรับรองการไม่คัดค้านการสมรส ทางอำเภอของพ่อตัวดีไม่ยอมให้มา..บอกว่ามันเป็นเอกสารของราชการนะ ให้ไม่ได้หรอก..พ่อตัวดีวิ่งรอกเป็นอำเภอเอารายการเอกสารที่ฉันต้องใช้ขอวีซ่าให้อำเภอดู แต่คุณท่านก็ยังยืนยันว่าไม่ให้อยู่ดี ให้ได้แค่หนังสือประกาศการแต่งงาน..งานนี้พ่อตัวดีเลยร่างจดหมายมาฉบับหนึ่งว่าเขามาขอเอกสารนี้แต่ทางอำเภอให้ไม่ได้หวังว่าทางสถานฑูตจะเข้าใจและอนุมัติวีซ่าให้ว่าที่เจ้าสาว..หากมีปัญหาอะไรให้ติดต่อที่อำเภอนี้ได้เลย แล้วให้ทางอำเภอลงชื่อและประทับตราให้ด้วย..อำเภอก็บ้าจี้เซนต์และประทับตราในจดหมายนั่นมาให้จริงๆด้วย..

ฉันเลยอธิบายให้น้องเขาฟังอย่างใจเย็นและกำชับไปอีกรอบว่า น้องเข้าใจใช่มั้ยค่ะ ว่าราชการฝรั่งเศสเขาทำงานแบบระบบใครระบบมัน ไม่เหมือนกันในแต่ละที่..อำเภอนี้เขาไม่ยอมจริงๆคะ พี่ก็เพลียใจเหมือนกันค่ะ บลาๆๆ..น้องเขาคงฟังฉันพล่ามมานานจนมึน เลยยินยอมแต่โดยดี

ฉันกลับเข้าออฟฟิตทำงานต่อไป..ผ่านไปสามวัน ระหว่างที่ฉันกำลังจ้วงข้าวราดแกงเข้าปากอย่างเมามัน..ก็มี SMSจาก TLS แจ้งให้ไปรับพาสต์สปอร์ตคืนได้แล้ว..ฤกษ์งามยามดีที่เจ้านายไม่อยู่ออฟฟิตในช่วงบ่ายและไม่เข้ามาอีกแล้วในวันนั้น..ฉันเลยแวบไปรับเล่มคืนมาเปิดดูเพื่อให้แน่ใจว่าฉันได้วีซ่าแน่ๆ ไม่ใช่ถูกปฏิเสธวีซ่า..ซึ่งไม่มีอะไรพลิกล็อค วีซ่าเชงเก้นเหมือนเดิม เพียงแต่คราวนี้ฉันอยู่ได้สามเดือนเลยก็เท่านั้น..

ในเมื่อวีซ่าพร้อมแล้ว..ขั้นต่อไปฉันก็คงต้องเคลียร์เรื่องของตัวเองในเมืองไทยให้เรียบร้อยก่อนบินไปเป็นเจ้าสาวต่างด้าวที่เมืองน้ำหอม..แอบใจหายว่า เหลือเวลาไม่มากแล้วในเมืองไทย..

No comments:

Post a Comment