Sunday, December 19, 2010

เตรียมเอกสารขอวีซ่าไปแต่งงาน

หลังจากตัดสินใจแล้วว่า ฉันขอเริ่มใช้ชีวิตของฉันบ้าง..เมื่อทุกอย่างมันไม่สวยหรูเหมือนงานแต่งงานในฝัน..พ่อแม่ไม่ได้หวงห้าม คัดค้าน เพียงแค่ไม่สนับสนุนการตัดสินใจของฉันเลยก็เท่านั้น..ไหนๆฉันตัดใจจะไปใช้ชีวิตต่างแดนแล้ว..แต่งงานมันซะที่โน่นแหละดีที่สุดแล้ว..

ฉันและเขา เราแยกย้ายกันหาข้อมูลมาถกกันว่า เริ่มต้นคือวีซ่าสำหรับการมาอยู่ของฉันในเมืองน้ำหอมต้องทำอย่างไรกันบ้าง..ครวนี้มันคือวีซ่าเพื่อมาแต่งงานไม่ใช่วีซ่าเยี่ยมญาติแบบเดิมๆอีกแล้ว..ทั้งข้อมูลจากผู้มีประสบการณ์ใจดีๆหลายๆท่านที่มาบอกเล่าประสบการณ์ให้ความรู้แก่คนรุ่นหลังๆในอินเตอร์เนท..การถามไถ่จากเพื่อนฝูงที่มีประสบการณ์ตรงมาแล้วบ้าง..แต่ด้วยความที่ประเทศนี้เปลี่ยนกฎกันเป็นเรื่องสนุก..หลังจากหัวหมุนไปพักใหญ่ ก็ได้ขอสรุปมาว่า ฉันต้องลงมือทำเอกสารก่อน ดังนี้

เริ่มจากฉันต้องไปเตรียมเอกสารไม่ว่าจะเป็น สำเนาบัตรประชาชน ใบเกิด ทะเบียนบ้าน ใบรับรองสถานการสมรส(ใบรับรองความเป็นโสด)เตรียมส่งให้พ่อตัวดีไปยื่นเรื่องที่อำเภอของเขา..เหมือนจะง่ายแต่ฉันแทบจะต้องทำการตามหาพื้นเพของตัวเองเลยทีเดียว..สาวเลขสามแบบฉันที่ถือครองบัตรประชาชนมานาน ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาตามหาใบเกิดอีกรอบ..ซึ่งมันก็นานมากแล้วหลายสิบปีที่ฉันไม่เห็นหน้าตาของใบเกิดของฉัน..เป็นแบบที่คิด..หายสาญสูญไปแล้ว

ฉันเริ่มจากไปเขตที่มีชื่อของฉันอยู่ในปัจจุบันเพื่อติดต่อขอเอกสารต่างๆ คือใบเกิดและใบรับรองทะเบียนราษฎรที่ฉันได้ข้อมูลมาว่าใช้เอกสารนี้แทนการสำเนาทะเบียนบ้านเล่มน้ำเงินธรรมดาจะดีกว่า..แต่พอไปติดต่อคือเขตปัจจุบันซึ่งไม่ใช่เขตที่ฉันแจ้งเกิด ฉันต้องไปคัดสำเนาใบเกิดที่เขตของโรงพยาบาลที่ฉันเกิด แถมใบรับรองทะเบียนราษฎรก็ดันได้เลขที่บ้านใหม่ จากการที่กทม.เปลี่ยนระบบบ้านเลขที่ใหม่..เอาละสิ ฉันเลยต้องทำบัตรประชาชนใหม่ เพื่อให้มันตรงกับบ้านเลขที่ปัจจุบัน..งานเข้าจริงๆ

เอาหล่ะ ได้บัตรประชาชนใหม่แล้ว ฉับรีบเรียกแท็กซี่ไปอำเภอของโรงพยาบาลที่ฉันเกิด ดีที่พี่คนขับไหวพริบดี พาฉันมาถูกด้วยเพราะให้ฉันไปเองก็ไม่มีทางไปถูกหรอก จนฉันมานั่งรอคุณเจ้าหน้าที่ใจดีในสำนักเขตของโรงพยาบาลที่ัฉันเกิดแล้ว..ใช้เวลาไม่นานฉันก็ได้สำเนาใบเกิดมาครอบครอง แต่มันก็มีปัญหาอื่นตามมาอีก..ชื่อที่แจ้งเกิดกับชื่อปัจจุบันไม่ตรงกัน..พ่อแม่คงหมดความเห่อในการตั้งชื่อลูกคนเล็กแบบฉัน ทำใหตอนโรงพยาบาลแจ้งเกิด ฉันได้ชื่อย่อของโรงพยาบาลมาเป็นชื่อตัวเอง..จนพ่อแม่ดูฤกษ์พานาที รูปพรรณสัณฐานของลูกสาวแล้ว ถึงได้มอบชื่อจริงที่ฉันใช้ในปัจจุบันมาให้ (ดีนะที่ยังจำชื่อตอนแรกเกิดของตัวเองได้..ไม่งั้นเจ้าหน้าที่ก็หาใบเกิดของฉันไม่เจอหรอก)..ต้องกลับไปขอให้เขตเดิมออกใบเปลี่ยนชื่อให้ใหม่ มันเหมือนจะง่ายแต่พอไปติดต่อแล้ว ฉันก็ไม่รู้ว่าจะตอบคำถามเจ้าหน้าที่แบบไหนเมื่อเขาว่าจำได้มั้ยว่า เปลี่ยนชื่อตอนไหน..โอว..ฉันยังอ้อๆแอ้ๆอยู่เลยมั้งตอนนั้น..ส่วนแม่ก็นานเป็นสามสิบกว่าปีเท่าอายุฉัน..จะจำได้มั้ย.. ฉันวิ่งรอกไปๆมาระหว่างสองเขต คือ เขตปัจจุบันและเขตเก่าที่มีข้อมูลของฉันอยู่เดิมก่อนที่จะโอนมาอยู่ในเขตปัจจุบันหลายรอบกว่าจะค้นเจอใบเปลี่ยนชื่อ..เฮ้อ เรื่องเยอะจริงๆจะแต่งงานสักทีเนี่ย

เอาหล่ะยังไม่หมดเวลาทำการ ตอนนี้ฉันเหลือแค่ขอใบรับรองสถานภาพสมรส ฉันเดินขึ้นไปชั้นบนของที่ว่าการเขตเพื่อติดต่อขอไอ้เจ้าใบที่ว่านี่..นึกว่าจะง่ายรอรับได้เลย..ที่ไหนฉันต้องไปหาพยานมาสองคนพร้อมบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของพยานมาด้วย เพื่อยืนยันว่าฉันไม่เคยแต่งงานกับใครมาก่อน..แล้วฉันจะไปลากใครมาให้ลางานมาเพื่อเป็นพยานให้ฉัน หลังจากพยายามขอร้องเจ้าหน้าที่อยู่นานก็ได้รับการปฏิเสธกลับมา..สุดท้ายแล้วฉันได้พี่เพื่อนร่วมงานที่ใจดีอยู่ละแวกบ้านพร้อมลูกชายของพี่เขา มาเป็นธุระจัดการให้..คิดดูนะว่าพี่เขากับฉันต้องนัดกันเลยว่าลางานวันนี้นะ เพราะลูกชายว่างพอดีจะได้มาช่วยทำธุระให้..พยานต้องอายุยี่สิบปีขึ้นไปนะคะ..มันยุ่งยากมากเลยเนอะ ทั้งๆที เจ้าหน้าที่เวลาซักถามพยานก็ไม่ได้ถามอะไรเกี่ยวกับสถานภาพการสมรสของฉันเลย..ถามแค่ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ของพยานเท่านั้นเอง..ฉันนั่งรอเกือบสามชั่วโมงถึงได้กระดาษเอสี่ มีตราครุฑที่ว่ามาครอบครอง เอกสารแผ่นเดียวเดือดร้อนหลายชีวิตเลย

ว่าที่สะใภ้ต่างแดนแบบฉันภารกิจยังไม่เสร็จสิ้น ฉันต้องเอาเอกสารทั้งหมดไปรับรองที่กรมการกงสุล แจ้งวัฒนะก่อนถึงจะเอาไปแปลเป็นภาษาฝรั่งเศสได้..ค่าธรรมเนียมแบบธรรมดาใบละสองร้อยบาท แบบเร่งด่วนรอรับได้เลยใบละสี่ร้อย..ฉันมีเอกสารต้องไปรับรองหกฉบับ คิดแล้วเอาแบบไม่รีบนักก็ได้ รอแค่สองวันประหยัดได้เป็นพันบาท ขอแบบธรรมดาค่ะ (ขนาดรวมค่าจ้างแมสเซนเจอร์ไปกลับสองรอบด้วยแล้ว ยังถูกกว่าเลย..ฉันยอมรอ หึ) ฉันได้มาแล้วเอกสารรับรองจากกงสุล ภารกิจต่อไปคือ เอาเอกสารไปแปลเป็นภาษาฝรั่งเศส

ฉันเลือกใช้บริการแปลของสมาคมฝรั่งเศสเนื่องจาก อยู่ไม่ไกลจากที่ทำงานและที่สำคัญคือราคาไม่แพงแถมฉันยังได้ส่วนลดเพิ่มอีก เพราะว่าฉันเรียนภาษาฝรั่งเศสกับสมาคมด้วย แต่ขนาดประหยัดๆ ตอนนี้ฉันก็เสียไปเกือบสามพันบาท เอกสารหกฉบับสมาคมนัดให้ฉันมารับในอีกหนึ่งอาทิตย์ถัดไป..ในเวลาทำการของสมาคม มาถึงตอนนี้ฉันเริ่มเหนื่อยว่า ทำไมหนอ แค่คิดจะมีสามีต่างด้าวเนี่ย ฉันต้องทำโน่นนี่สารพัด..แต่ก็ยังไม่จบเรื่อง ฉันยังต้องเอาเอกสารที่แปลแล้วจากสมาคมไปประทับรับรองจากสถานฑูตด้วยแน่นอนมีค่าธรรมเนียมอีก ใบละสิบแปดยูโรอีกต่างหาก แล้วแถมไม่ใช่สถานฑูตตรงถนนสาทรนะ ต้องไปโน่นเลย สถานฑูตฝรั่งเศสตรงเจริญกรุงโน่นเลย..กว่าจะเสาะหาข้อมูลสถานฑูตว่าแฝงตัวอยู่ที่ไหน ต้องทำอะไรบ้างจากอินเตอร์เนท ฉันก็นึกขอบคุณพี่ๆแม่บ้านฝรั่งเศสหลายๆคนที่อุตส่าห์มาโพสต์ลงในอินเตอรเนทให้รุ่นหลังแบบฉันได้ทำตามแบบไม่ทุลักทุเลนัก

ฉันมานั่งรอยื่นเอกสารอยู่ที่สถานฑูตแต่เช้าแต่จนป่านนี้ผ่านไปสองชั่วโมงฉันก็ยังรอต้องต่อไป เพราะว่ามีคู่สมรสหลายคู่เลยที่ไปรอรับบริการในวันนั้น..เพราะหากเลือกสมรสในไทย ก็ต้องจูงมือพ่อหนุ่มของเรามายื่นเอกสารพร้อมทำการสัมภาษณ์ที่สถานฑูตที่นี้..ระหว่างรอฉันแอบอิจฉาสาวๆหลายๆคนที่ มีว่าที่สามีมาเคียงข้างดำเนินการด้วยกันไม่หัวเดียวกระเทียมลีบแบบฉัน..แต่อีกหลายนางเหมือนกันที่แอบข่มสามีสุดฤทธิ์ จิกว่าสารพัดว่าสามีไม่รู้เรื่อง โง่ ไม่ได้ความเลย น่าเบื่อที่สุด ฯลฯ ..เอ่อ แล้วพี่ฉลาดทำไมไม่ไปติดต่อเจ้าหน้าที่เองหล่ะคะ มานั่งฉลาดๆ หน้าหงิกแบบนี้ทำไม..(นิสัยเสียนะคะ ชอบแส่เรื่องของชาวบ้าน แต่หาได้นำพาเรื่องของตนเองไม่..หึ หึ)

รอเกือบสามชั่วโมงจนเกือบเที่ยง ใจเสียเหมือนกันว่าเจ้าหน้าที่จะไล่ให้ไปหาข้าวกลางวันทานก่อนมั้ย แต่สุดท้ายก็ได้ไปตรวจเอกสารรอรับรองหลังจากเสียค่าธรรมเนียมไปเกือบห้าพันบาท..เจ้าหน้าที่ชาวฝรั่งเศสแต่หน้าเหมือนคนไทยและพูดไทยชัดมาก..บอกให้ฉันเดินลงมาติดต่อประทับตราที่ด้านล่างและเน้นว่าต้องให้เจ้าหน้าที่เซนต์กำกับด้วยนะ ไม่งั้นได้วิ่งมาสถานฑูตอีกรอบแน่ๆ..ฉันลงมาติดต่อด้านล่างรอประทับตราอีกเกือบชั่วโมง ก็ได้เอกสารมาอยู่ในมือ..สิ้นเสียงเจ้าหน้าที่บอกว่า เรียบร้อยแล้วเหมือนเสียงสวรรค์เลยสำหรับฉัน..รอมาสี่ชั่วโมงแล้ว อยากออกไปสูดอากาศข้างนอกเต็มที..แต่ฉุกคิดขึ้นมาได้ ขอดูหน้าตาเอกสารให้ชื่นใจหน่อยเถอะ..เห็นรอยประทับตราสีแดงของสถานฑูตลงวันที่เรียบร้อย..แต่ แต่ แต่ ไม่เห็นมีลายเซนต์เจ้าหน้าที่เลยนี่..หันหลังกลับไปติดต่อเจ้าหน้าที่คนสวยที่ยื่นเอกสารมาให้ฉันแทบไม่ทัน..ฉันเลยต้องนั่งรออีกเกือบชั่วโมงในเจ้าหน้าที่แหม่มฝรั่งที่ดูเหมือนเป็นระดับหัวหน้าที่นั่งอยู่ในห้องทำงานส่วนตัวเซนต์รับรองเอกสารทั้งหกใบให้อีกครั้ง..

ฉันเข้าไปสถานฑูตตั้งแต่เก้าโมงเช้า ได้ออกมาอีกครั้งตอนบ่ายสองโมง..โล่งใจทีภารกิจเสร็จสิ้นแต่ตัวเบาหวิวเพราะเสียทรัพย์ไปไม่น้อย กว่าจะได้เอกสารพวกนี้มาครอบครองเอาเฉพาะค่าธรรมเนียมต่างๆก็เกือบเก้าพันบาท..คุณพระช่วย ถ้ารวมค่าเดินทางทั้งของฉันเองและบรรดาตัวช่วยทั้งหลายแหล่..แตะหมื่นกว่าบาทเป็นที่เรียบร้อย..เลยปลอบใจตัวเองด้วยของอร่อยย่านบางรักไปหลายอย่าง ข้าวหน้าเป็ดนายสูง โจ๊กปรินซ์ แถมด้วยขนมหวานบุญทรัพย์อีก..กินเอาตายเลยทีเดียวโดยหารู้ไม่ว่า อีกหน่อยหล่อนจะมีปัญหาหาชุดแต่งงานใส่ไม่ได้ หึ หึ

2 comments:

  1. ขอคำปรึกษาได้ไหมค่ะ กำลังเตรียมเอกสารเลย

    ReplyDelete
    Replies
    1. I am so sorry Khun TL S for so late reply. Maybe in this moment you already passed marry, right? lol If you still need my help, feel free to contact me naka.So sorry again.

      Delete