Saturday, December 11, 2010

พรหมลิขิต หรือ คุณลิขิต

ฉันมักจะถูกถามอยู่เสมอว่า ไปหาฝรั่งมาป็นคู่จากที่ไหน เจอกันยังไง ช่วยหาให้บ้างสิ..หลายครั้งที่ฉันรู้สึกกระอักกระอ่วนใจที่ต้องตอบคำถามซ้ำๆเดิมๆ..แอบมีเคืองๆนิดหน่อย..ฉันก็สาวไทยติดดินธรรมดาๆเนี่ยแหละ ไม่ได้เป็นเอเจนท์หาคู่สักหน่อย จะได้ช่ำชองในการหาฝรั่งตาน้ำข้าว หรือฝรั่งขี้นกมาปลูกต้นรักกับใครต่อใครได้ง่ายๆ

ฉันอาจจะบอกได้ว่าการที่ฉันและคุณฝรั่งมาเจอกันได้มันเป็นเรื่องของพรหมลิขิต แต่ถ้าลองนึกย้อนไปนานๆ (นานมาก)
ฉันก็แอบมีคิดว่า ฉันแอบสะกดจิตตัวเองมาให้ได้เจอคู่ฝรั่ง...

ย้อนไปสมัยประถม..วันนั้นมีการแสดงจากนักศึกษาอาสาสมัครต่างชาติมาทำการแสดงที่โรงเรียนของฉัน..ทั้งคณะมีประมาณเกือบสามสิบชีวิต มันเป็นครั้งแรกที่ชั้นได้เห็นฝรั่งตัวเป็นๆ ใกล้ๆเป็นครั้งแรก ซึ่งปกติก็จะเห็นแต่ในทีวีเท่านั้น..ผมทอง ตาสีฟ้า กันเกือบท้งคณะ..ฉันได้แต่คิดในใจว่า คนพวกนี้สวยจังเหมือนตุ๊กตาบาร์บี้ที่เราเคยอยากได้เลย..(รูปลักษณ์ทอมบอยทะโมนๆแบบฉัน ทำให้แมไม่เคยซื้อบาร์บี้ให้เลยสักครั้ง ตุ๊กตาที่ฉันได้มาตลอดคือ โดราเอมอนตัวกลมซึ่งมันเข้าหุ่นอวบๆของฉันได้เป็นอย่างดี)

นับแต่วันนั้น ด้วยความแก่แดดของเด็กบ้าๆ บอๆ แบบฉัน เวลาเพื่อนๆเอาสมุด friendship มาให้เขียน ฉันก็มักจะทะลึ่งเขียนไปว่า อนาคตจะมีแฟนเป็นฝรั่ง..ซึ่งมันก็จะแปลกๆ ขำๆ เพราะตอนเราเป็นเด็กเราจะเขียนอะไรที่จริงจัง ซื่อๆ ตามวัยของเรา แต่ความแก่แดดแก่ลมทำให้ฉันเขียนแบบนั้นให้กับเพื่อนสนิททุกคน..เรื่อยมาจนมัธยมต้นยันม.ปลายฉันก็ยังเขียนมันอยู่แบบนั้น
ชีวิตดำเนินเรื่อยมาตามแบบฉบับของกุลสตรีรักนวลสงวนตัว หมกตัวอยู่ท่ามกลางเพื่อนผู้หญิง..แม้จะแอบสนิทกับเพื่อนผู้ชายบางคนมาก แต่มันก็สนิทกันมากจนเหมือนพี่น้องกันจริงๆ ทำให้ฉันไม่มีแฟนเลยจนอายุปาเข้าไปยี่สิบเจ็ดปี (คานมารอแกแล้วหล่ะ)
ด้วยรูปพรรณสัณฐานของฉันที่ตรงข้ามกับความนิยมของหนุ่มไทยโดยสิ้นเชิง (อ้วน ดำ ล่ำบึ้ก) แต่มีพี่ๆหลายๆคน บอกว่าหน้าตาคมๆ แบบฉันฝรั่งน่าจะชอบ..จนหนักๆเข้า หมอดูสารพัดสำนักก็มักทายเสมอว่าชั้นจะได้คู่ต่างชาติ..นี่ละมังที่ทำให้ชั้นเริ่มที่จะสะกดจิตตัวเองอีกครั้งว่า อืม อย่างชั้นน่าจะเป็นฝรั่ง เพราะอกหักที่แอบชอบหนุ่มไทยมาหลายคน แต่ท้ายที่สุดดันมาบอกว่า ฉันเป็นคนตลก คุยสนุก อบอุ่นเหมือนได้คุยกับพี่สาว..แม่..(เอ่อ จะเป็นแฟนค่ะ ไม่ได้อยากเป็นแม่)

พอคุณฝรั่งดวงตกเสนอตัวมาให้รจนาอย่างฉันเสี่ยงพวงมาลัยดูสักครั้ง จิตใต้สำนึกที่ถูกตัวเองปลูกฝังมานานก็ทำให้ฉันตกลงปลงใจกับคุณฝรั่งในที่สุดแม้ในตอนแรกจะยืนยันหนักแน่นว่า ไม่เอา ไม่ชอบ..แต่สุดท้ายก็แพ้แววตาซื่อๆสีน้ำข้าวนั่นจนได้

พระพรหมอาจจะลิขิตให้ฉันมาเจอคู่เป็นฝรั่งตัวโตแต่ใจน้อยคนนี้ แต่จริงๆแล้วฉันเองก็ลิขิตชีวิตตัวเองไว้เหมือนกัน เพราะอย่างที่รู้ๆกัน กว่าจะได้ใช้ชีวิตคู่กับชาวต่างชาติ หญิงแดนสยามอย่างเราๆ ก็ต้องฝ่าฝันสมรภูมิวีซ่าต่างๆ นานา จนต้องมาเรียนรู้โลกใหม่ต่างบ้านต่างแดนแบบนี้..เพราะฉะนั้นถ้าฉันไม่เลือกที่จะลิขิตเส้นทางชีวิตตัวเองด้วย ป่านนี้ฉันอาจจะยังต้องร้องเพลงใคร..(บอย โกสิยพงษ์)รอคนๆนั้นที่พระพรหมท่านจะลิขิตมาให้ อยู่ก็เป็นได้

No comments:

Post a Comment