Thursday, February 24, 2011

ถึงคราวเสียเลือด

ฉันมีอาการไข้ตอนเย็นๆ ปวดหัว เจ็บคอ ลามปามถึงมีอาการคลื่นไส้มาหลายวัน..สันนิษฐานแรกคือ  จากการที่แอบซดเก็กฮวยเย็นเจี๊ยบแต่ดันใส่น้ำแข็งลงไปอีก..โรคจิตนิดหน่อย ติดน้ำแข็งมาก ได้กินเมื่อไร ชื่นใจเมื่อนั้น..ทุกครั้งทีมีอาการแบบนี้ ฉันหาทางทุเลาอาการตัวเองด้วย paracetamol และIbuprofen ตามที่หาได้ เพราะทั้งสองตัวมีฤทธิ์ลดไข้ทั้งคู่  ส่วนตัวหลังดีกว่าหน่อยที่ลดอาการอักเสบได้ด้วย...เป็นๆ หายๆ อยู่หลายวัน จนบอกตัวเองให้เลิกกินน้ำแข็ง..แต่คราวนี้อาการก็ไม่ได้ดีขึ้น เริ่มเจ็บคอและปวดหัวตลอดเวลา และมีไข้ตามมาในที่สุด บวกกับอากาศหนาวๆ ตอนเดินออกไปเรียน ทำให้ร่างกายฉันล้าอยู่เงียบ แต่แปลกว่าถึงเวลานอนจะนอนไม่หลับ  ตื่นมาดูนาฬิกาทุกชั่วโมง..

สองวันต่อมาระหว่างที่เรียนภาษาผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์  เมื่อยคอมากเลยจัดการนวดเส้นแก้เครียดไปพลางๆ ..แต่เอ๊ะ ลำคออวบของฉัน..ไหง มันมีก้อนนูนๆ ใต้กกหูทั้งสองข้างเลยอ่ะ โตประมาณลำไยกะโหลกเชียงใหม่เลยทีเดียว...เจ็บคอมากขึ้น ไข้เริ่มสูงจนขอบตาร้อน..ยาแก้ไข้ไม่ช่วยอะไรแล้ว ได้แต่นอนรอออเซาะพ่อตัวดีอย่างเดียว..จนสามทุ่มสามีเดินเข้ามาในบ้านเห็นเมียแก่นอนเป็นศพอยู่..เลยเดินมาดูอาการ แรกๆก็ดูเฉยๆ เพราะว่าฉันเป็นไข้มันเกือบทุกเย็น จนเขาเริ่มชิน แต่พอเห็นลำไยกะโหลกที่คอเท่านั้นแหละ..ตาทีโตมากอยู่แล้วเบิกโพล่งเป็นไข่ห่าน..ลนลานไปคว้าโทรศัพท์ไปหาหมอทันใด..เนื่องจากดึกแล้ว เลยได้แต่ซักถามอาการ..ระหว่างนั้นฉันเองที่เคยมีประสบการณ์เป็นแบบนี้มาตั้งแต่อยู่เมืองไทย คิดว่าตัวเองน่าจะต่อมน้ำเหลืองอักเสบ..เลยพยายามบอกสามี แต่ดูเหมือนเขายังไม่คลายใจ..แพทย์ปลายสายบอกว่าให้หาพาราฯ กรอกปากเมียคุณไปก่อนนะครับ  รุ่งเช้่าก็ไปพบแพทย์นะครับ..รับรองได้ว่า คืนนี้ ยายแก่นั่นยังอยู่ดี ไม่ถึงตายแน่ๆ

แต่พาราฯหมดบ้านไปหลายวันก่อน ฉันเลยกินไอบูโพรเฟนไปพลางแล้วรีบเข้านอน..เหมือนเดิมคือ เพลียจริงแต่นอนหลับไม่สนิท..ข่มตาหลับมันไปจนเช้า..แล้วรีบสะกิดคุณฝรั่งให้โทรไปนัดหมอให้หน่อย..แต่ก่อนไม่อยากไปหาหมอเท่าไร ติดนิสัยจัดยาให้ตัวเอง แต่ตอนนี้อยากให้ลำไยสองก้อนนั่นฝ่อไปเร็วๆ เลยไม่งอแงที่จะไปพบหมอเหมือนเคย..พ่อตัวดีวางสายลงแล้วบอกว่า หมอให้ไปตอนสี่โมงครึ่งรอไหวมั้ย..ฉันพยักหน้าหงึกหงักแทนคำตอบ..พ่อตัวดีบอกว่าเนื่องจากวันนี้ฉันไม่สบาย งั้นไม่ต้องเข้าครัว เราออกไปกินข้าวกลางวันข้างนอกแล้วกัน..ไปร้านอาหารจีนกัน ..ดีเหมือนกันไม่ต้องทำกับข้าว แต่คนที่ดูจะมีความสุขมากกว่าเหมือนจะเป็นสามีที่ยิ้มระรื่นออกนอกหน้า..แกเบื่อรสมือฉันก็บอกกันตรงๆ ก็ได้นะ..ชิ

ฉันสวาปามได้น้อยกว่าปกติมาก และเริ่มอาการแย่ลงตั้งแต่ออกจากร้านอาหาร หนาวแบบไม่มีเหตุผลทั้ฃที่วันนี้อากาศดี แดดจ้าฟ้าใส แต่นังนี่หนาว..พร้อมมีอาการคลื่นไส้ พะอืดพะอมแบบบอกใครไม่ได้..ฉันได้แต่นอนรอเวลาพาร่างไปหาหมอแต่ไม่ยอมกินยา เพราะว่าอยากให้หมอเห็นอาการทั้งหมด..จนถึงเวลาไปหาหมอ..สามีไม่รู้กาละเทศะให้ฉันหัดบอกอาการตัวเอง เหอะ..ประมาทเมียอีกแล้วนะคะ..ฉันเตรียมมาหมด..J'ai mal a la tête et groche aussi. J'ai une grippe. ฉันปวดหัวเจ็บคอและมีไข้ค่ะ..หมอคนสวยแอบชมว่าพูดเก่งขึ้นเยอะ..นังตัวดีรีบแทรกเลยว่า เริ่มไปเรียนแล้วครับเลยพูดได้เยอะขึ้น..นังนี่  ที่อย่างนี้รีบแทรกมาเชียวนะ..คุณหมอเชิญให้เข่้าไปด้านในที่เตียงคนไข้ แล้วบอกให้แก้ผ้า..งานนี้เลยใช้เวลานานหน่อย..เสื้อกันหนาว เสื้อสเวตเตอร์ เสื้อยืด ลองจอน ถอดออกหมด เหลือแต่บราตัวจิ๋วๆแต่เสริมฟองน้ำอย่างหนาปิดน้องแฝดของฉันไว้เท่านั้น...อายจัง

หมอให้นอนลงแล้วเอาเครื่องมืออะไรมาสแกนตามหน้าผาก ขมับ หู..อ๋อ เทอร์โมมิเตอร์แบบใหม่นี่เอง..วัดความดัน..ผลออกมาคือ ความดันสูง หมอแอบถามว่ามีน้องรึเปล่า..ฉันรีบบอกว่าไม่มีค่ะ..ทานยาคุมอยู่ หมอขอดูคอ..คอแดงได้ใจ หมอบอกแบบนั้น คราวนี้เลยเอาเครื่องฟัง..สเตรปโตรสโคปมาแปะๆฟังๆหมดเลย ไหปลาร้า ช่องท้อง หลัง ไต..แล้วหมอก็เรียกไปชั่งน้ำหนักแล้วบอกว่า เสร็จแล้วใส่เสื้อผ้าได้..ใช้เวลาอยู่นานในการประกอบร่าง ได้ยินเสียงหมอเจื้อยแจ้วกับพ่อตัวดีแต่ฟังไม่ค่อบถนัดนัก..ฉันตามออกมานั่งข้างๆสามี หน้าโต๊ะคุณหมอเหมือนเดิม..หมอบอกว่า ต่อมน้ำเหลืองอักเสบ แต่ไข้สูงมาก 40 แน่ะ แถมความดันสูง เพราะฉะนั้นหมอจะให้ไปเจาะเลือด ตรวจฉี่ เพราะความดันสูงมากจนน่ากลัว..แต่ฉันก็บอกไปอีกว่า ตอนอยู่เมืองไทยก็สูงเพราะว่าเลือดจางและช่วงนี้นอนไม่หลับ ตื่นทุกชั่วโมงเลย..แต่หมอไม่ใจอ่อน บอกให้ไปตรวจมาจะได้แน่ใจ อวบๆ ปลิ้นๆแบบนี้คลอเลสเตอรอลน่าจะสูง..วันนี้ให้แค่ยาลดไข้ แก้ไอแล้วก็สเปรย์พ่นจมูก ส่วนยาฆ่าเชื้อไม่ให้..ปล่อยให้ภูมิร่างกายรักษาตัวเอง..มีงี้ด้วย ไม่นะ..เขาจะเอายาฆ่าเชื้ออ่ะ..หมอส่งใบให้ไปตรวจเลือด ตรวจฉี่ แล้วบอกว่า หัดออกกำลังกายบ้างอะไรบ้างนะ..จะอืดไปวันๆแบบนี้ไม่ดีนะคะ.ฮือๆๆ หมอใจร้าย

ออกจากคลีนิกหมอก็ไปร้านขายยาเพื่อเอายาตามใบสั่งของหมอ..ฉันแอบถามพ่อตัวดีว่าแล้วจะไปตรวจเลือดที่ไหน..พ่อตัวดีเลยบอกว่าเดี๋ยวพาไป เพราะพรุ่งนี้ฉันต้องมาเองคนเดียว..เขามาด้วยไม่ได้แล้ว ต้องทำงาน...อ้าวเฮ้ย..ให้มาเองจริงๆเหรอ..นังใจร้าย..ฉันถูกลากให้เข้ามาในแลปตรงข้ามซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ฉันมาเป็นประจำ แต่สายตาหาได้ชำเลืองมองแลปแห่งนี้ไม่..ก็ไม่น่าสนใจนี่..ซุปเปอร์มีอะไรดึงดูดกิเลสมากกว่าอ่ะ..พ่อตัวดีไปติดต่อที่ประชาสัมพันธ์บอกว่า หมอสั่งให้ฉันมาตรวจเลือดแต่ฉันพูดฝรั่งเศสไม่ได้ พอจะมีใครพูดอังกฤษได้บ้างมั้ย..สรุปว่าไม่มี..ฉันได้กระบอกเก็บตัวอย่างปัสสาวะมาอันหนึ่ง ใบสั่งตรวจเลือดและปัสสาวะจากหมอถูกยื่นกลับมาให้พร้อมกัน แต่มี post-it สีแสบตาเขียนข้อความอะไรบ้างอย่าง
..แอบถามสามี..ฝรั่งตอบว่า อ๋อ เขาเขียนไว้ว่าเนื่องจาก vital card ของฉันยังอยู่ระหว่างดำเนินการ..อีกนัยหนึ่งก็คือ เคสของฉันต้องจ่ายเงินสดเท่านั้น..เหอะ นึกว่าจะเขียนอะไรพิเศษแบบว่าช่วยเหลือเคสของฉันเป็นพิเศษ ดันเขียนเตือนกันเองว่า อย่าลืมเก็บเงินนังกะเหรียงนี่ซะงั้น

เจ้าหน้าที่สาวสวยบอกให้ฉันมาเจาะเลือดพรุ่งนี้ 08.35 น.  พร้อมเอาตัวอย่างปัสสาวะมาส่งด้วย..หลังเที่ยงคืนห้ามทานอะไรอีก..แม้แต่น้ำหยดเดียวก็ไม่ได้...ฉันไม่ค่อยกลัวการมาเจาะเลือดที่นี่เพียงคนเดียวในวันพรุ่งนี้นัก เพราะว่าทำเรื่องไว้แล้ว แค่ยื่นเอกสารคงเข้าใจกันได้ไม่ยาก ไม่ต้องพูดอะไรเยอะ..

เช้าวันต่อมา หลังจากจัดการเก็บฉี่เรียบร้อย ฉันก็ไปที่แลปไปเจาะเลือด..ไปติดต่อเคาน์เตอร์ สาวน้อยคนสวยก็รับกระบอกเก็บปัสสาวะของฉันไปแล้วบอกว่า เรียบร้อยแล้ว มารับผลได้ตอนเย็น ฉันถามออกไปว่ากี่โมง..เธอเลยบอกมาว่า หกโมงเย็น..ฉันหงึกๆ หงักๆ พยักหน้ารับคำ แล้วเตรียมเดินออกมา..แม่สาวสวยตะโกนเรียกต่อว่า..ฉันต้องเจาะเลือดด้วยนี่..งั้นนั่งรอก่อน..รอ รอ รอ พักเดียวได้ยินเสียงเรียกชื่อ มาดาม..มีรีเย่ร์..เกือบจะลุกแต่ว่าไม่ใช่นามสกุลพ่อตัวดีนี่ เลยทำหน้ามึนนั่งรอต่อไป..ระหว่างนั้นมีคุณลุงคนหนึ่งมารอเจาะเลือดเหมือนกัน..ก้นที่ยังไม่ทันหย่อนลงนั่งของคุณลุงก็หมดโอกาสนั่งรอ เพราะว่ามีเสียงเรียกให้ไปเจาะเลือดได้เลย..อ้าว..งั้น อีมาดาม มิริเย่ร์เมื่อกี้ ก็เรียกอิชั้นนะสิ ..

มาดาม...เอาละ คราวนี้ชื่อจริงเสียงจริง ฉันรีบเดินตามไปหาต้นเสียงที่เป็นหญิงสูงวัยร่างท้วมๆ สวมแว่นใส่เสื้อกรานด์สีขาว..ที่สำคัญหน้าหงิกมาก..เธอบอกให้ฉันเดินตามมาในห้อง  กำลังจะหย่อนสะโพกทอร์นาโดลงนั่งบนเก้าอี้นวมสีแดงข้างโต๊ะทำงานของเธอ..ป้าหน้าหงิก ก็บอกให้ฉันไปปิดประตู และถอดเสื้อกันหนาวออกแขวนไว้ที่ตะขอข้างกำแพงก่อน..ค่อยมานั่ง..จ๊ะ ป้า กลัวแล้วจ๊ะ..ฉันถลกแขนเสื้อข้างขวาขึ้นแล้วนั่งลง  แขนขวาพาดตรงเบาะรองแขนพอดี..ป้าไม่ทักทายอะไรทั้งสิ้น  จัดการเอาสายยางมารัดแถวต้นแขน..แล้วจ้องจะจิ้มอย่างเดียว..ความที่เป็นคนกลัวเข็ม ฉันรีบหันหน้าออกไปอีกทาง ไม่กล้าดู เจ็บจื็ดเลย ตอนป้ากดปลายเข็มลงที่เนื้ออ่อนๆของฉัน...ป้าส่งเสียงอะไรมาไม่รู้บอกเกี๋ยวกับมือ ฉันเลยยิ่งกำมือแน่นขึ้น เลือดจะได้สูบฉีดดี ป้าจะได้ทำเสร็จเร็วๆ

ที่ไหนได้ ป้าเอาปากกามาเขี่ยๆที่มือ บอกว่าไม่ต้องกำมือ..อ้าวเหรอ..ได้ยินแต่กำมือ กำมือ..เสียเลือดให้ป้าไป 3 หลอด ..ป้าถึงพอใจดึงเข็มออกแล้วเอาสำลีมาวางปากแผลให้ แล้วสั่งให้ฉันกดไว้..อารามกลัวอีป้า..ฉันรีบกดแล้วรีบลุกขึ้นยืนทันทีที่เสียงป้าดังมาว่า เสร็จแล้ว..คราวนี้อีป้าเลยส่งเสียงรัวเร็วมาอีกว่า...อย่าเพิ่งไปมาติดเทปที่สำลีก่อนจะได้ไม่ต้องคอยกดไว้เอง..ฉันเอ่ยของคุณอีป้าไปอย่างโล่งใจว่าหมดเรื่องแล้ว..หยิบเสื้อกันหนาวมาใส่ อีป้าก็เดินไปเปิดประตูห้องแล้วเดินจากไปพร้อมเสียง au revoir โอวัวร์ลอยตามมา...เอ่อ ป้ารีบไปไหนเหรอค่ะ หนูจะพยายามไม่มารบกวนป้าอีกนะคะ

กลับมาสวาปามอาหารเช้าแล้วเอ้อระเหยอยู่กับบ้านอย่างสบายใจ..รอจนเย็นฟ้ามืด เดินไปเอาผลตรวจที่แลป..นึกว่าจะเจอเจ้าหน้าที่คนเดิม..อ้าว พี่คนนี้จะเข้าใจที่ตรูพูดมั้ยเนี่ย..เอาหว่ะกัดฟันพูดออกไป Bonsoir Madame. Je voudrais prendre  mon sang et urine examine. บงซัวร์ มาดาม. เฺฌอ วูเดร์ พร้องด์ มง แซง เอ อูรีน เอกซามัง..สวัสดีค่ะ คุณพี่  หนูมารับผลตรวจเลือดกับปัสสาวะของหนูค่ะ..พ่นออกไปตามไวยากรณ์นรกแตกของฉัน..คุณพี่คนสวยถามว่ามีเอกสารจากมาหมอมาด้วยมั้ย..ฉันบอกว่าไม่มี..ตอนเช้าให้ไว้กับที่นี่ไปแล้ว..เธอคงฟังฉันเข้าใจแค่ครึ่งเดียว เพราะเธอตอบมาแต่ว่า ทีหลังต้องเอาเอกสารมานะ แล้วถามว่าวันจันทร์จะมาตอนเช้ากี่โมงดี..ฉันเริ่มเห็นท่าไม่ดี พยายามบอกเธอว่า ฉันมาแล้วตอนเช้า à matin เธอก็บอกว่า ก็ใช่ไงมาวันจันทร์ตอนเช้าไง..ท่าจะคุยกันเมื่อยมืออีกแล้ว

นง นง.แฌ เดจา เฟ non non..J'ai déja fait ไม่จ๊ะ หนูทำไปแล้ว.. เตรียมจะถลกแขนให้เธอดู..สวรรค์โปรดเธอเข้าใจแล้ว..ถามชื่อฉันแล้วหันไปค้นผลเลือดมาให้ฉัน พร้อมแจ้งยอดเงินที่ต้องจ่าย..สี่สิบนยูโรหลุดลอยไป เดินเอาผลเลือดกลับไปเปิดอ่านที่บ้าน..ทุกอย่างปกติ ไขมันไม่สูง HDLเกินเกณฑ์  LDL ต่ำกว่า Triglyceride พอดีๆ..สงสัยไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย น้องคนนี้เลยมีน้อยไปหน่อย  เม็ดเลือดแดงขนาดเล็กไปหน่อย นี่แหละสาเหตุที่ฉันมีภาวะเลือดจาง..ความดันมันเลยสูง..ส่วนน้องไตยังทำงานปกติ..เฮ้อ โล่งอก..จนสามีกลับมาบ้านถามว่าไปตรวจเลือดมาเป็นไงบ้าง..ฉันบอกว่า ปกติดี แค่เลือดจางเฉยๆ..ฉันแอบวางใจ แต่ไหงนังคนข้างๆ เห็นเป็นเรื่องราวใหญ่โต..จะลากฉันไปหาหมออีกจะได้เอายามากินบำรุงเลือด..โอ๊ยยย ไม่แล้วค่ะ..แข็งแรง สมบูรณ์ มิเป็นโรคแล้วค่ะ สามี..หายแล้ว..เดี๊ยนเบื่อหมอแล้วค้าาา

No comments:

Post a Comment