Tuesday, March 8, 2011

เตรียมตัวไปเรียนแบบเต็มขั้น

หลังจากไปทดสอบความรู้ภาษาฝรั่งเศสมาแล้ว ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์พ่อตัวดีก็ถือจดหมายฉบับหนึ่งมายื่นให้ตรงหน้า..เนื้อความเขียนไม่เยิ่นเย้อ เพราะคงรู้ว่าอารัมภบทเยอะจะอ่านแล้วปวดหัวกันมากกว่า..จับใจความได้ว่าวันจันทร์หน้าให้ไปเรียนได้แล้ว..

คอร์สเรียนภาษานี้ใช้เวลารวม 240 ชั่วโมง เรียนสัปดาห์ละ 16 ชั่วโมง โดยเรียนวันละ 4 ชั่วโมงยกเว้นวันพุธที่จะไม่มีเรียน..รวมกับคอร์สเรียนเดิมที่  Maison de quatier ฉันก็จะมีชั่วโมงเรียนอาทิตย์ละ 20 ชั่วโมง หายไป 2 ชั่วโมง เพราะว่าเวลาเรียนชนกัน เลยตัดเลือกเรียนที่ใดที่หนึ่ง..แน่ละ ฉันเลือกโรงเรียนจากโอฟี่ไว้ก่อนเพราะว่า ที่นี่ค่อนข้างจะมีกฎเข้มงวดเรื่องการเข้าเรียน คือ ห้ามมาสาย ห้ามขาดเรียนเกิน 3 ครั้ง หากป่วยต้องมีใบรับรองแพทย์มาแสดงด้วย ถ้าฝ่าฝืนคุณครูก็จะรายงานไปที่ โอฟี่ทันที เพราะว่า ถือว่าให้เรียนฟรีแล้วไม่ตั้งใจก็จะถูกหมายหัวไม่ให้การช่วยเหลือใดๆต่อไป

ทันทีที่อ่านจดหมายจบ ฉันรีบดัดเสียงอ่อนหวาน หน้าตาซื่อๆ หันไปถามพ่อตัวดีว่า พรุ่งนี้วันเสาร์ไม่ต้องไปทำงานใช่มั้ย..พ่อตัวดีพยักหน้ารับแต่แววตางงๆ เพราะร้อยวันพันปี นังเมียบ้าไม่เคยจะออดอ้อนแบบนี้ คราวนี้มันต้องขอให้ทำอะไรอีกแน่ๆ..ฉันเอียงคอแอ๊บแบ๊วว่า..พาไปซื้อตั๋วรถเมล์รายเดือนหน่อยนะ..เพราะสามีคงไม่มีเวลาไปส่งคุณเมียไปเรียนได้ทุกวันใช่มั้ย  ต้องรถเมล์ไปเอง ซื้อตั่วไปกลับเที่ยวละยูโร วันหนึ่งก็ 2 ยูโร อาทิตย์ละ 8 ยูโร..ซื้อตั๋วเดือนดีกว่า เดือนละ 24 ยูโร นั่งไปเลยไม่จำกัดจำนวนเที่ยว..พ่อตัวดีบอกว่า เสียดายที่ฉันแก่เกินไป ถ้าต่ำกว่า 25 ปีนะ..เดือนละ 6 ยูโรเอง..

หนอย..มานึกเสียดายเงินหรือเสียดายชะตากรรมตัวเองที่เลิอกเมียชรา..ต้องกราบกรานและเทิดทูนบูชาเมียนะคะ ..จะหาที่ไหนได้ เมียที่เสนอตัวนั่งรถเมล์ไปเรียนเองไม่ต้องเดือดร้อนสามี..ถือว่าวาสนาฉันน้อยแต่คุณชายวาสนาสูง เราถึงได้มาลงเอยกันได้..ไม่งั้นป่านนี้ฉันอาจได้ไปอยู่ในที่สูงกว่านี้ก็เป็นได้...คานนั่นเอง

จนเช้าช่วงสายของวันเสาร์ ฉันนั่งเล่นอินเตอร์เนทรอให้พ่อตัวดีตื่น  ในใจกะไว้ว่าสิบเอ็ดโมงจะเข้าไปเรียกเพราะว่าวันเสาร์เปิดขายตั๋วรายเดือนแค่ครึ่งวัน ปิดเที่ยง เพราฉะนั้นนอนเอาบ้านเอาเมืองจนถึงสิบเอ็ดโมงก็น่าจะเพียงพอ..นี่ขนาดว่าเห็นใจนะว่าตื่นแต่ไก่ยังไม่มีแรงโห่ออกไปทำงานทุกวัน กว่าจะกลับมาบ้านอีกทีไก่ก็หลับไปนานแล้ว เลยปล่อยให้พักผ่อนนอนใจไปเรื่อยๆ ก่อน  ส่วนฉันเตรียมเอกสารที่ต้องใช้ในการซื้อตั๋วเดือน คือ พาสปอร์ตและรูปถ่าย 1 ใบ

จนเกือบ 11 โมง สามีรู้งานก็ตื่นมาเองโดยไม่ต้องใช้กำลังข่มขู่..ส่งเสียงมาบอกว่า  ขอเวลา 10 นาทีแล้วออกไปซื้อตั๋วกัน..น่ารักมาก..จูงมือกันกระหนุงกระหนิงเดินไปไม่ถึง 10 นาทีก็ถึงสำนักงานขายตั๋วรถเมล์..มีคนรอใช้บริการอยู่หนาตา ตอนแรกฉันคิดว่าช่วงสิ้นเดือนแบบนี้ คนอื่นก็คงมาซื้อตั๋วเดือนแบบฉันเหมือนกัน..แต่พอสนทนาระหว่างเข้าคิวก็ทราบว่า คนอื่นเขามาเปลี่ยนตั๋วรายเดือนแบบเดิมที่เป็นกระดาษธรรมดา มาเป็นการ์ดแข็งมีชิป หน้าตาคล้ายสมาร์ทการ์ดแบบบ้านเราที่ตอนนี้ยังต้องลุ้นกันใจหายใจคว่ำว่าจะได้ใช้กันก่อนสงกรานต์มั้ย เพราะได้ยินเสียงร่ำลือว่า บางคนถือบัตรเหลืองมาร่วมปีเพราะสมาร์ทการ์ดติดปัญหา

มาถึงคิวของเราแล้ว..พ่อตัวดีเอ่ยปากบอกพนักงานขายตั๋วไปว่า มาทำบัตรรายเดือนครับ เพราะภรรยาผมต้องไปเรียนเองทุกวัน..บอกซะละเอียด เพราะกะว่าพนักงานจะเมตตาถ้าเป็นนักเรียนแล้วจะลดค่าตั๋วให้..ฝันไปก่อนเถอะ..นักเรียนที่จะมีสิทธิ์ขอส่วนลดเหลือ 6 ยูโรต่อเดือน ต้องอายุไม่เกิน 25 ปียะ..แต่ถ้าไม่เรียนแล้ว 18 ขวบก็หมดสิทธิ์..เพราะฉะนั้นยัยนักเรียนแก่นี่ต้องจ่ายเต็มนะคะ..รับคำแบบจ๋อยๆ พร้อมส่งพาสปอร์ตและรูปส่งไปให้..ไม่เกิน 5 นาทีก็ได้บัตรมาครอบครองแลกกับ 24 ยูโรที่เสียไป..พนักงานบอกว่าเริ่มใช้บัตรได้วันที่ 1 ของแต่ละเดือน หมดอายุก็ตอนสิ้นเดือน อย่าลืมมาต่อบัตรด้วยหล่ะ..ฉันฟังแล้วแอบสะกิดพ่อตัวดีว่า วันจันทร์ที่หนูจะไปเรียนมันวันที่ 28 กพ. อยู่เลยอ่ะ ทำไงอ่ะ...สามีหันไปถามพนักงานก็ได้คำตอบว่า ไปซื้อตั๋วบนรถเมล์กับคนขับได้เลย..รถเมล์ที่นี่ไม่มีกระเป๋ารถเมล์คอยเก็บเงินแบบบ้านเรา

ก่อนกลับบ้าน ฉันขอให้คุณชายพาไปดูป้ายรถเมล์ที่ฉันต้องขึ้น  ...อย่าเพิ่งคิดว่าฉันเกิดอาการสมองตายหรือไง ไม่รู้จักป้ายรถเมล์ที่ออกจะคุ้นเคยสมัยอยู่เมืองไทย..ป้ายรถเมล์ที่นี่จะไม่รวมหลายๆสายแบบบ้านเรา จะแยกไปเลยเป็นป้ายของแต่ละสาย ขนาดสายเดียวกันแต่ขาไปกับขากลับยังแยกป้ายกันเลย ป้องกันคนขึ้นสับสน ที่ป้ายก็จะมีเขียนบอกไว้เลยว่าที่นี่สำหรับสายอะไร จากไหนไปไหนและมีตารางเวลาให้ดูด้วย..

เดินอุ่นใจกลับไปบ้าน หลังจากเตรียมบรรดาสมุด เครื่องเขียนและดิกชันนารีเรียบร้อยสำหรับการไปเรียนแล้ว (เก็บอาการเห่อไว้ไม่อยู่) ฉันก็สาละวนกับสมุดตารางรถที่ได้มาตอนไปซื้อตั๋ว เพื่อศึกษาเส้นทางว่าจะนั่งสายอะไรไปเรียนดี เพราะว่ามีให้เลือก 2 สาย..รู้สึกตื่นตัวหลังจากหมกตัวเป็นศพอืดๆ อยู่ในบ้านมานาน ..คราวนี้จะออกไปเผชิญหน้าชาวโลกบ้างแล้ว..หมายมั่นอยู่ลึกๆว่า ต่อไปนังสามีจะน้ำตาเช็ดหัวเข่า..เมียแก่อย่างฉันจะหนีเที่ยวบ้าง ..ทีหนูป้าไม่ว่า..ถึงคราวป้าหนูอย่ามาโวย หึๆ

No comments:

Post a Comment